สตาร์วอร์ Star Wars เป็นภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ภาพยนตร์เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดย จอร์จ ลูคัส (George Lucas) เข้าฉายครั้งแรกในปี 1977 เป็นอาณาจักรวาลที่มีเรื่องราวซับซ้อนและลายละเอียดมากเลยทีเดียว รวมถึงด้านคุณธรรม สอดแทรกวัฒนธรรมต่างๆ มิตรภาพ การผจญภัย ทำให้ จอร์จ ลูคัส สตาร์วอร์ส (Star Wars) ได้รับการยอมรับมาจนถึงปัจจุบันนั่นเองค่ะ
การรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะสับสนสักหน่อยไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนเราแนะนำให้เลือกดูแบบเรียลไทม์ค่ะ เพราะจะช่วยให้คุณได้เข้าใจอาณาจักรสตาร์วอร์ส (Star Wars)ได้ง่ายขึ้นและเข้าใจตัวละครในภาคต่อๆ ไป ต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นหนังที่สนุกและน่าติดตามทุกภาคต่อ ในยุคดิจิทัลสามารถดูผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ย้อนหลังได้อย่างค่าย Disney+, Netflix, หรือ Amazon Prime Video รับประกันเลยค่ะว่าการเลือกติดตามภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณมีความรู้สึกเหมือนได้อยู่ภายใต้การผจญภัยในกาแล็กซี่อย่างนั้นเลยค่ะ
จริงๆ การเลือก ดูสตาร์วอร์ (Star Wars)แบบเรียลไทม์นับว่าเป็นความสำคัญอย่างมากเลยค่ะ สามารถที่จะเลือกดูผ่านภาพยนตร์หรือซีรีส์ผ่านการสตรีมมิง (Streaming)บนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการได้ทันที เช่น Disney+, Netflix, หรือ Amazon Prime Video และนอกจากนี้ยังมีข้อดีต่างๆ อาทิเช่น
การรับชมภาพยนตร์ แบบเรียลไทม์ เป็นวิธีที่ดีที่สุดคุณจะได้สัมผัสบรรยากาศอาณาจักรวาล สตาร์วอร์ส (Star Wars) ที่หลากหลายและเต็มไปด้วยการผจญภัย สามารถเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับคุณได้ เช่น Disney+, Netflix หรือ Amazon Prime Video เพื่อการรับชม สตาร์วอร์ส (Star Wars) เนื้อหาแบบครบถ้วนตามที่เราแนะนำ การจัดลำดับจะช่วยสร้างบรรยายกาศให้คุณได้เข้าใจได้ง่ายขึ้นประสบการณ์ที่เต็มอรรถ ภาพครบชัดระดับ Full Hd
“The Phantom Menace” เป็นภาคแรกและเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ของสตาร์วอร์ส (Star Wars) ด้วยการแนะนำเคโนบี (Obi-Wan Kenobi) และอาจารย์ของเขา ไคว-กอน จินน์ (Qui-Gon Jinn) ซึ่งเป็นอัศวินเจได (Jedi) ทั้งสองได้ทำภารกิจรวมกัน และได้ถูกส่งไปยังดาวนาบู (Naboo) เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และการต่อสู้ จนได้พบกับนาคิน สกายวอล์คเกอร์ (Anakin Skywalker) เด็กที่มีพลังพิเศษ เชื่อว่าเขาเป็น “ผู้ถูกเลือก” ที่จะนำสมดุลกลับมาสู่พลัง (Force) แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับดาร์ธ มอล (Darth Maul) ศิษย์แห่งซิธลอร์ด (Sith Lord) D
“Attack of the Clones” เกิดขึ้นสิบปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก เจไดได้เป็นผู้แข็งแกร่งและเติบโตมาอย่างเฉลียวฉลาดเขาได้ตกหลุมรักแพดเม่ อมิดาลา (Padmé Amidala) อดีตราชินีนาบู แพดเม่ อมิดาลา กำลังถูกลอบสังหารและอยู่ในช่วงที่โอบีวันสืบสวนเรื่องนี้ เขาได้ค้นพบการสร้างกองทัพโคลน (Clone Army) ซึ่งนำไปสู่สงครามโคลน (Clone Wars) ที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของกาแล็กซี่
“Revenge of the Sith” ภาคนี้ได้แสดงไปถึงจุดจบของสงครามโคลน อนาคินถูกอำนาจมืดล่อลวงโดยพลาลพาทีน (Palpatine) ผู้นำสูงสุดของสาธารณรัฐ แต่ที่แท้จริงแล้วคือดาร์ธ ซิเดียส (Darth Sidious) เพราะซิธลอร์ด อนาคิน กลายเป็นดาร์เวเดอร์ Darth Vader และเขายังได้สังหารเจไดเป็นจำนวนมากอีกด้วยโอบีวันต้องต่อสู้กับอนาคินบนดาวมุสตาฟาร์ (Mustafar) และทิ้งเขาไว้ในสภาพที่เกือบจะตายแต่ในขณะเดียวกัน แพดเม่คลอดลูกแฝด ออกมาเป็นลุค (Luke) และเลอา (Leia) ซึ่งถูกแยกกันเพื่อปกป้องพวกเขาจากดาร์ธ เวเดอร์
“A New Hope” เริ่มต้นการผจญภัยของลุค สกายวอล์คเกอร์ โดยที่เขาเติบโตบนบนดาวทะเลทรายทาทูอีน (Tatooine) จนเขาได้พบกับโอบีวัน เคโนบี และทั้งสองได้ร่วมมือกับฮาน โซโล (Han Solo) และเจ้าหญิงเลอาเพื่อช่วยต่อสู้กับจักรวรรดิกาแล็กซี่ (Galactic Empire) มีจุดประสงค์ที่จะทำลายลายเดธสตาร์ (Death Star) สถานีอวกาศขนาดใหญ่ที่มีอำนาจและความชั่วที่สามารถทำลายดาวเคราะห์ได้
“The Empire Strikes Back” เป็นอีกภาคที่น่าดูมากๆ เลยค่ะ เนื้อเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการตอบโต้ของจักรวรรดิที่นำโดยดาร์ธ เวเดอร์ ลุค ได้ไปฝึกฝนวิชาการต่อสู้กับ โยดา (Yoda) เจไดผู้เก่าแก่ นับว่าเป็นคนที่เก่งที่สุดเลยค่ะ ขณะที่เรื่องวุ่น ๆ ได้เกิดขึ้น ลุคได้รู้ความจริง ว่าคนที่เขาต้องเผชิญหน้า เวเดอร์ แท้จริงแล้วคือพ่อของเขานั่งเอง
“Return of the Jedi” ภาคนี้แสดงถึงการกลับมาของเจได โดยลุคพยายามที่จะช่วยฮาน จากการพ้นโทษของแจ๊บบา เดอะ ฮัทท์ (Jabba the Hutt) และยังได้ร่วมมือกันต่อสู้กับจักรวรรดิ จนในที่สุดพวกเขาได้ทำลายเดธสตาร์ที่สองได้ และเขายังทำให้ดาร์ธ เวเดอร์กลับใจเป็นคนดี มาช่วยทำลายดาร์ธ ซิเดียส อีกด้วย
“The Force Awakens” เรื่องราวได้เกิดขึ้นหลายปี หลังจากที่ จักรวรรดิได้ถล่มสลายลงไป แต่ก็มีกลุ่มของเฟิร์สออร์เดอร์ (First Order) ที่ต้องการคืนชีพจักรวรรดิ “เรย์” นอกจากเธอจะได้ค้นพบพลังในตัวเธอแล้ว เธอยังต้องร่วมมือกับฟินน์ (Finn) อีกด้วยอดีตทหารสตอร์มทรูปเปอร์ (Stormtrooper) และฮาน โซโลเพื่อต่อสู้กับไคโล เร็น (Kylo Ren) บุตรชายของฮานและเลอาที่กลายเป็นซิธ
“The Last Jedi” เป็นภาคต่อ จากเมื่อก่อนเรย์ได้หลบหนีไปหาลุคเพื่อไปฝึกเป็นเจได แต่กลับถูกลุคปฏิเสธเพราะเขารู้สึกผิดหวังในการฝึกไคโล เร็น แต่เรย์ก็ยังพยายามที่จะโน้มน้าวลุค จนในที่สุด ลุคก็ตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อช่วยพันธมิตรอีกครั้งโดยใช้พลังสุดท้ายของเขาในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนั่นเองค่ะ
“The Rise of Skywalker” เป็นภาคล่าสุดที่แสดงให้ถึงการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างกลุ่มพันธมิตรและเฟิร์สออร์เดอร์ โดยเรย์ได้ค้นพบความจริงว่าเธอเป็นหลานของพาลพาทีนผู้ที่ได้กลับมาสร้างความวุ่นวายอีกครั้ง ทำให้เรย์ต้องต้องเผชิญหน้ากับไคโล เร็นและพาลพาทีนเพื่อร่วมมือกันนำความสมดุลกลับสู่พลัง ในที่สุดเรย์ใช้พลังทั้งหมดของเธอในการทำลายพาลพาทีนและนำความสงบสุขกลับมาสู่กาแล็กซ์
ภาพยนตร์ สตาร์วอร์ส (Star Wars) นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่และมีความหลากหลายของเหตุการณ์และตัวละครทั้งการเกิดขึ้นของ อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ (Anakin Skywalker) และการตกสู่ด้านมืดของเขา รวมถึงการผจญภัยของเรย์และลุค ในการต่อสู้กับอำนาจมืดการรับชมในแต่ละภาคนั้นคุณจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวละครที่ได้เกิดขึ้นในกาแล็กซี่อยู่ตลอด! ข้อมูลล่าสุด ภาพยนตร์สตาร์วอร์สภาคต่อ มีกำหนดฉายในปี 2026 แต่ยังไม่มีการแจ้งถึงรายละเอียด อย่างเป็นทางการ และนอกจากนี้ยังมีซีรีส์ทางโทรทัศน์และโปรเจกต์อื่นๆ ในจักรวาลสตาร์วอร์สที่กำลังจะฉายในเร็วๆ นี้ เช่น ซีรีส์ “Ahsoka” และ “The Acolyte” ซึ่งมีกำหนดฉายบน Disney+ เพื่อขยายจักรวาลสตาร์วอร์สให้หลากหลายและลึกซึ้งยิ่งขึ้นถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและการอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับสตาร์วอร์ส แนะนำให้ติดตามผ่านเว็บไซต์ทางการของสตาร์วอร์ส (starwars.com) และแพลตฟอร์มสตรีมมิง Disney+ รับรองเลยค่ะว่าได้ชมอาณาจักร สตาร์วอร์ส (Star Wars) ก่อนใครแน่นอนเลยค่ะ